วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

+รวมสูตสาเกเชื่อม



สาเกเชื่อมสูตรที่ 1ส่วนผสม
1.สาเกข้าวเหนียว 1 ผล
2.น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
3.หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
4.น้ำดอกไม้ 5 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกสาเก
ผ่าออกเป็นชิ้นใหญ่ๆ ฝานไส้ทิ้ง แช่น้ำปูนใส
2. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำดอกไม้ ตั้งไฟพอละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟอีกครั้ง
3. ใส่สาเกลงเชื่อมด้วยไฟกลาง เชื่อมจนเหนียว
4. ตั้งกะทิให้เดือด รับประทานกับสาเก

สาเกเชื่อมสูตรที่ 2ส่วนผสม
1.สาเก 1 กิโลกรัม
2.น้ำปูนใส
3.น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง
4.น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง
5.มะนาว 1 ผล
วิธีการทำ
1. ทำความสะอาดสาเก ปอกเปลือกออกให้หมด ส่วนที่เป็นสีเขียวให้ทาด้วยน้ำมะนาว เพื่อไม่ให้เนื้อสาเกดำ ผ่าครึ่งตามความยาวหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว
2. แช่ในน้ำปูนใสประมาณ 1 ชั่วโมง ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
3. ต้มน้ำสะอาดในกะทะทอง ใส่น้ำตาลทราย ตั้งไฟพอน้ำตาลทรายละลาย กรองน้ำตาลด้วยผ้าขาวบาง
4. ใส่น้ำเชื่อมในกะทะทองอีกครั้ง ใส่สาเกลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆประมาณ 1 ชั่วโมง แช่สาเกในน้ำเชื่อมทิ้งไว้ 1 คืนแล้วตักออก
5. อุ่นน้ำเชื่อมใช้ไฟปานกลาง
6. นำสาเกลงเชื่อมให้อิ่มตัว จนน้ำเชื่อมงวด ยกลงตักใส่ภาชนะ สามารถเก็บไว้ได้นาน

สาเกเชื่อมสูตรที่ 3ส่วนผสม
1.สาเกสดปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้น 1000 กรัม
2.น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง
3.เกลือป่น 1 ช้อนชา
4.น้ำ 6 ถ้วยตวง
5.น้ำมะนาว 1/2 ผล
6.มะนาวสำหรับทาผิวสาเก 3 ผล
7.ใบเตย 5 ใบ
วิธีทำ
1.ทาผิวสาเกด้วยมะนาวให้ทั่ว (เพื่อป้องกันมิให้สาเกดำในขณะที่เชื่อม)
2.ละลายน้ำตาลทราย เกลือป่น กับน้ำเข้าด้วยกัน ใส่ใบเตย ต้มจนเดือด
3.ใส่สาเกในน้ำเชื่อมเติมน้ำมะนาว เชื่อมใช้ไฟอ่อน จนสาเกมีลักษณะอิ่มน้ำเชื่อม สุก และใส เคี่ยวจนน้ำเชื่อมงวด จึงยกลง
4.พักไว้จนเย็นสนิท เก็บใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิทเก็บไว้รับประทานได้นานวัน

สาเกเชื่อมสูตรที่ 4ก่อน อื่นเลือกสาเกที่ไม่อ่อนหรือไม่แก่จัดเกินไปนะคะ ปอกเปลือกออก ล้างน้ำสะอาดแล้วหั่นส่วนตัวแล้วชอบหั่นชิ้นใหญ่ๆหน่อย แช่น้ำปูนใสสัก 2 ชั่วโมงนะคะ เวลาเชื่อมจะได้ไม่เละ เชื่อมเสร็จ ข้างนอกจะแข็งๆหน่อยแต่ข้างในจะนุ่มค่ะ แช่น้ำปูนได้ที่แล้วก็เอาขึ้นมาสะเด็ดน้ำไว้นะคะ
เวลาจะเชื่อมก็เอา น้ำตาลทรายละลายกับน้ำ ใส่น้ำนิดเดียวพอนะคะไม่ต้องมาก น้ำตาล 1 ก.ก. สาเกขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่ ลูกหนึ่งหั่นได้หกชิ้น ประมาณนั้น นะคะ สักสองลูกค่ะ
ตั้งไฟแล้วน้ำตาลจะละลายเอง ได้น้ำตาลทรายแดงจะดีมากค่ะ พอน้ำตาลทรายละลายหมด เราก็ใส่สาเก ปิดฝาให้เดือด เดือดดีแล้วก็ราไฟอ่อนๆไว้ค่ะ คนได้บ้างแต่อย่ามากนะคะ เดี๋ยวเละหมด เคี่ยวไปจนกว่าน้ำจะงวด น้ำตาลเหนียวเป็นยางหน่อย ก็ปิดไฟได้แล้วค่ะ เก็บไว้กินได้หลายวันค่ะ ถ้าชอบใส่กระทิสดก็คั้นน้ำกะทิสดราดได้อีกเหมือนกันค่ะ
ผมชอบกินสาเกเชื่อมแบบแห้ง ๆ อ่ะ คือชิ้นสาเกต้องเคลือบน้ำตาลจนแห้งเป็นเกล็ด จากนั้นจะหยอดน้ำตาล
เยิ้ม ๆ อีกก็ไม่เป็นไร ไม่ชอบสาเกเชื่อมยุ่ย ๆ เหมือนมันเชื่อมอ่ะครับ มันอร่อยคนละอย่างกัน

สาเกเชื่อมสูตรที่ 5ส่วนผสม
1.สาเก 1 ผล
2.น้ำ 3 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
4.น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วยตวง
5.เกลือ 1/4 ช้อนชา
6.น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนชา
7.น้ำ 2 ถ้วยตวง
วิธีการทำ
1. ผ่าสาเกตามความยาวของผล จับแต่ละซีกคว่ำลง แล้วหั่น ขวางผลให้หนา 1 นิ้ว ฝานเปลือกและไส้ทิ้งไป แช่ในน้ำปูน ใส 15 นาที แล้วล้างน้ำปูนออกให้หมด
2. ต้มน้ำ 3 ถ้วยตวงให้เดือด จึงนำชิ้นสาเก ลงต้มประมาณ 15 นาที ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
3. ต้มน้ำตาลทรายกับเครื่องปรุงที่เหลือทั้งหมดด้วยกันจนเดือด จึงใส่สาเกที่ต้มไว้ลงไปต้มด้วยไฟอ่อน ๆ จนน้ำตาลซึมเข้า เนื้อดี และน้ำเชื่อมงวด ต้องหมั่นคนให้ชิ้นสาเกแช่น้ำเชื่อม อย่างทั่วถึง
4. ตักชิ้นสาเกใส่จานเสิร์ฟ ราดด้วยน้ำเชื่อมให้ทั่ว

** กลเม็ดเคล็ดลับขนม เชื่อมของไทย มีหลายอย่าง เช่น มันเชื่อม เผือกเชื่อม กล้วยเชื่อม มันสำปะหลังเชื่อม ขนุนเชื่อม ฯลฯ ผู้ทำเลือกทำได้ตาม ฤดูกาลของพืชผลนั้น ๆ โดยใช้เครื่องปรุงเหมือนสาเกเชื่อมหรือใช้ เครื่องปรุงต่างกันไปได้
สาเกเชื่อมควรใสตลอดชิ้น ซึ่งแสดงว่าน้ำเชื่อมซึมได้ทั่วทั้งชิ้น กลิ่น หอมสาเกปนกลิ่นน้ำเชื่อมรสหวานจัด
บทความจาก :  วิธีทำสาเกเชื่อมอย่างละเอียด flash-mini

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น